ผ้าเบรคหลังของ T100 ใช้เบอร์เดียวกับ ผ้าเบรคหน้า Kawasaki KLX 140,KLX 150, KR150 หน้าซ้าย
เช่น
bendix general ct md9 ใน shopee ขาย 98 บาท!
บันทึกไว้ กันลืม
ผ้าเบรคหลังของ T100 ใช้เบอร์เดียวกับ ผ้าเบรคหน้า Kawasaki KLX 140,KLX 150, KR150 หน้าซ้าย
เช่น
bendix general ct md9 ใน shopee ขาย 98 บาท!
ปี 1952 ตัวละครนักศึกษาหนุ่มนาม บ๊อบ วิลสัน ขังตัวเองในห้องพักของเขาเพื่อจะเขียนวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกให้เสร็จ วันส่งงานคือพรุ่งนี้ หัวข้อวิทยานิพนธ์เป็นเรื่องการเดินทางข้ามเวลา เขาตอกเครื่องพิมพ์ดีดนานต่อเนื่อง ชั่วขณะหนึ่งก้านพิมพ์ขัดกัน เขาพยายามแก้ไขมัน ทันใดนั้นก็มีเสียงใครคนหนึ่งพูดกับเขาว่า อย่าไปยุ่งกับเครื่องพิมพ์ดีดเลย ไม่ได้ความหรอก เขาสะดุ้งเฮือก ปรากฏใครคนหนึ่งในห้องของเขา เขาไม่รู้ว่าชายคนนี้โผล่มาได้อย่างไร เพราะห้องพักของเขาอยู่ที่ชั้นสาม ประตูกับหน้าต่างปิดสนิท
ใครคนนั้นบอกว่าเขาชื่อ โจ รูปร่างพอๆ กับเขา ข้างๆ โจเป็นทรงกลมประหลาดเส้นผ่าศูนย์กลางหกฟุตลอยอยู่เหนือพื้น โจชี้ไปที่ทรงกลม บอกว่าเขาเดินทางมาจากอนาคตโดยผ่านประตูเวลา (Time Gate) โจโน้มน้าวใจบ๊อบให้เดินทางไปในอนาคตหลายพันปีข้างหน้า บ๊อบไม่เชื่อ โจจึงสาธิตโดยการโยนหมวกเข้าไปในประตูเวลา มันหายวับไปเหมือนมายากล
บ๊อบ วิลสัน คิดหนักและลังเล ทันใดนั้นชายคนที่สามโผล่เข้ามาในห้อง หน้าตาคล้ายโจมาก ชายคนที่สามทะเลาะกับโจ ระหว่างถกเถียงและต่อสู้กัน บ๊อบถูกลูกหลงชกหลุดหายไปในประตูเวลา
บ๊อบ วิลสัน พบตัวเองในสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นวังขนาดใหญ่ เขาพบชายคนหนึ่งผมขาว หนวดเคราขาว แนะนำตนเองว่าชื่อ ดิกเตอร์ (Diktor) ดิกเตอร์บอกบ๊อบว่าเขากำลังอยู่ในเวลาสามหมื่นปีในอนาคต มนุษย์ในยุคสามหมื่นปีหลังต่างจากยุคของ บ๊อบ วิลสัน มาก
บ๊อบ วิลสัน ต้องการกลับไปในเวลาของเขา แต่ดิกเตอร์บอกเขาว่าไม่ต้องรีบร้อน มีอนาคตที่ยิ่งใหญ่รอเขาอยู่ ดิกเตอร์เลี้ยงอาหารเช้าบ๊อบ มีสาวใช้คนหนึ่งบริการเขา หญิงสาวคนนั้นสวยงามบาดใจ บ๊อบชอบเธอมาก ดิกเตอร์จึงยกหญิงงามคนนั้นให้บ๊อบ บอกว่าคนในยุคนี้มีแต่คนงามทั้งนั้น
ดิกเตอร์บอกว่า ผู้ที่สร้างประตูเวลาคือสิ่งทรงภูมิปัญญาจากต่างดาว มาปกครองมนุษย์อย่างทาสอยู่ราวสองหมื่นปีแล้วจากไป แต่มนุษย์ในอนาคตไม่เหมือนมนุษย์ยุคของ บ๊อบ วิลสัน แล้ว ไม่มีความก้าวร้าวหรือตัณหา จึงถูกปกครองได้ง่าย ใครก็ตามที่มาจากอดีตก็สามารถกลายเป็นราชาของโลกได้ไม่ยาก
ดิกเตอร์ขอให้บ๊อบเดินทางกลับไปในเวลาเดิมของเขาผ่านประตูเวลา เพื่อนำใครคนหนึ่งกลับมา บ๊อบพบตัวเองอีกครั้งในห้องพักของเขา เห็นใครคนนั้นในห้องพัก กำลังพิมพ์วิทยานิพนธ์ เขารู้ทันทีว่าชายคนที่ดิกเตอร์ต้องการให้พากลับไปอนาคตก็คือตัวเขาเอง! ตัวเขาที่กำลังพิมพ์วิทยานิพนธ์ถามว่าเขาเป็นใคร บ๊อบอึกอัก แล้วตอบว่าเขาชื่อ โจ เพื่อไม่ให้สับสนกับตัวตนจริงของเขา เขาต้องการให้บ๊อบหมายเลข 1 เข้าไปในประตูเวลา แต่ทันใดชายอีกคนหนึ่งก็โผล่เข้ามา ชายคนนั้นหน้าตาเหมือนเขา ก็คือบ๊อบหมายเลข 3 เขาถกเถียงกับบ๊อบหมายเลข 3 แล้วบ๊อบหมายเลข 1 ก็หลุดหายไปในเวลา
หลังจากนั้น บ๊อบ วิลสัน เข้าไปในประตูเวลาอีกครั้ง เดินทางกลับไปในอนาคต เขาพบดิกเตอร์อีกครั้ง ดิกเตอร์ขอให้เขากลับไปยังศตวรรษที่ 20 ในปี 1952 เพื่อไปซื้อข้าวของตามรายการที่ให้มาแล้วนำมันกลับมายังอนาคต เขาจึงกลับไปยังอดีตอีกครั้ง
บ๊อบ วิลสัน ผ่านฉากของเหตุการณ์ในห้องพักของ ‘บ๊อบ วิลสัน’ อีกรอบ คราวนี้เขามองออกว่าเขาสามารถเป็นอิสระได้ เขาไปซื้อข้าวของต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้เขาเป็นใหญ่ในอีกสามหมื่นปีข้างหน้าได้ เขาฉลาดกว่าใครๆ ในยุคอนาคต เขาเดินทางกลับไปในอนาคต แต่ต้องก่อนถึงเวลาที่จะพบดิกเตอร์สิบปี ทั้งนี้เพื่อแย่งตำแหน่งของดิกเตอร์เสียและเป็นใหญ่แทน
เขาพบของบางอย่างในส่วนควบคุมประตูเวลา เป็นสมุดบันทึกพจนานุกรมภาษาทาสในอนาคตกับภาษาอังกฤษ ซึ่งเชื่อว่าเป็นผลงานของดิกเตอร์
ด้วยข้าวของที่เตรียมมาและพจนานุกรม บ๊อบ วิลสัน ก็กลายเป็นใหญ่ในโลกอนาคต เขาสั่งคนของเขาให้เฝ้าระวังการปรากฏตัวของดิกเตอร์ แต่ไม่พบร่องรอยของชายหนวดเคราขาว
เวลาผ่านไป อายุของ บ๊อบ วิลสัน มากขึ้น สถานะราชาของเขามั่นคง กระนั้นเขาก็ยังหวาดระแวงว่าดิกเตอร์จะหวนกลับมาแย่งตำแหน่งของเขาคืนไป
ผ่านถึงจุดหนึ่งเขาก็รู้ว่าดิกเตอร์จะไม่ปรากฏตัวอีกแล้ว เขาพิจารณาดูตัวเอง เขามีผมขาว เขาไว้เคราเพื่อให้ต่างจากพวกทาสซึ่งหัวล้าน ทันใดนั้นเขาก็รู้ว่าเขาเองก็คือดิกเตอร์ ดิกเตอร์ในภาษาคนของโลกอนาคตไม่ใช่ชื่อ แต่เป็นตำแหน่งผู้ปกครอง
วันหนึ่งที่ประตูเวลา เขาพบว่าหมวกใบหนึ่งปรากฏขึ้น ไม่นานชายหนุ่มคนหนึ่งก็ผ่านประตูเวลาเข้ามา เขาจำได้ทันทีว่าคือ บ๊อบ วิลสัน คนที่หนึ่ง...
--
ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อตุลาคม 1941
ในปี 1970 ที่บาร์แห่งหนึ่ง ชายหนุ่มขี้เมาคนหนึ่งเล่าเรื่องของเขาให้บาร์เทนเดอร์ฟัง เขาบอกว่าเขามีอาชีพเขียนเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงลงนิตยสาร เขารู้เรื่องผู้หญิงดีเพราะเขาเคยเป็นผู้หญิงมาก่อน!
เขาเกิดในปี 1945 เป็นทารกที่ถูกทิ้งไว้หน้าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ใช้ชื่อว่า เจน
ในปี 1963 เจนโตเป็นสาว รักกับชายคนหนึ่งซึ่งต่อมาทำให้เธอตั้งท้อง แล้วเขาก็หายตัวไป ระหว่างที่ผ่าตัดทำคลอด หมอพบว่าเจนเป็นทั้งหญิงและชายในตัวคนเดียว (hermaphrodite) เพื่อช่วยชีวิตเธอ หมอจำเป็นต้องเลือก ในที่สุดก็เปลี่ยนให้เธอเป็นผู้ชาย เขา(เธอ) ไม่ได้เลี้ยงลูก เพราะใครคนหนึ่งลักตัวทารกหญิงของเธอไปจากโรงพยาบาล เขาเดินทางร่อนเร่ไปทั่ว ในที่สุดเขาก็กลายเป็นนักเขียน
บาร์เทนเดอร์เสนอตัวช่วยเจนแก้แค้นชายที่ทอดทิ้งเขา(เธอ) เจนตกลง ทั้งคู่จึงเข้าเครื่องเดินทางข้ามเวลาซึ่งตั้งอยู่หลังร้าน บาร์เทนเดอร์ส่ง ‘เจน’ ไปในปี 1963 เจนในสภาพผู้ชายพบหญิงสาวคนหนึ่ง และทำให้เธอคนนั้นตั้งท้อง
บาร์เทนเดอร์เดินทางต่อไปอีกเก้าเดือน ลักพาตัวทารกหญิงนั้นจากโรงพยาบาล และส่งทารกหญิงไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่คลีฟแลนด์ในปี 1945 หลังจากนั้นบาร์เทนเดอร์ก็เดินทางกลับมาในปี 1963 รับตัวเจนในสภาพผู้ชายไป แล้วพาเจน (ผู้ชาย) ไปในปี 1985 เพื่อเข้าทำงานที่หน่วยงานเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลา เมื่อนั้นบาร์เทนเดอร์ก็หวนกลับมาที่บาร์ในปี 1970 ไม่กี่นาทีหลังจากเขาหายไปหลังร้าน
หลังจากบาร์ปิด บาร์เทนเดอร์ก็เดินทางกลับเวลาจริงของเขา คือ 1993 เขาก็คือเจนคนที่ไปทำงานที่หน่วยเดินทางข้ามเวลา เขาลูบรอยแผลเป็นของเขาที่เกิดจากการผ่าตัดทำคลอดเมื่อครั้งที่เขาเป็นหญิงสาวนาม เจน
--
เรื่องนี้ถูกนำไปสร้างเป็นหนังชื่อ Predestination
เมื่อคลิกขวา -> Open Outlook Properties บนชื่อของคนที่ส่งอีเมลมาหาคุณใน Outlook จะสามารถดูข้อมูลของคนนั้นได้(เท่าที่เขากรอกมานะ) เราสามารถแก้ไขข้อมุลเหล่านี้ โดยยิง api ไปแก้ใน AD โดยระบุชื่อฟิลด์ให้ถูก ว่า Filed Name อะไร จะส่งค่าอะไรไปอัพเดท ตาม ADUserId ของคนนั้น แน่นอนว่าต้องมีรหัสที่มีสิทธิ์แก้ข้อมูลของ AD ของ Domain นั้นได้ จึงจะยิงได้
ชื่อที่แสดง | AD Field Name |
---|---|
First | givenName |
Initials | initials |
Last | sn |
รูปภาพ | thumbnailPhoto |
Display | displayName |
Alias | mailNickname |
Address | streetAddress |
City | l (L ตัวเล็ก) |
State | st |
Zip Code | postalCode |
Country/Regions | c |
Title | title |
Company | company |
Department | department |
Office | physicalDeliveryOfficeName |
Assistant | assistant |
Phone | telephoneNumber |
Triumph T100 ใส่แบตเตอรี่ RR รุ่น YT12-JS (12V 12Ah) ได้พอดีเลยครับ ขนาดเท่ากันเป๊ะ
ของเดิมติดรถเป็น Yuasa YTX12-TX ราคาประมาณ 2,5xx แต่ของ RR ราคาประมาณแค่พันเดียวเท่านั้น เห็นเขาใช้กันเลยลองซื้อมาใช้บ้าง หาซื้อได้ตาม Lazada, Shopee ทั่วไป
เมื่อ Log File ใน MS SQL Server ใหญ่เกิน เราก็ต้อง Shrink Log
ถ้าใช้คำสั่ง
DBCC SHRINKFILE(SomeDB_log, 1)
แล้วเจอ Error
Msg 8985, Level 16, State 1, Line 1
Could not locate file 'SomeDB_log2' for database 'SomeDB' in sys.database_files. The file either does not exist, or was dropped.
Completion time: 2022-02-24T09:31:56.6528604+07:00
แสดงว่าชื่อ log SomeDB_log ผิด ต้องใช้ชื่อในช่อง Logical Name ไม่ใช่ชื่อไฟล์ log จริงๆ
คลิกขวาตรง Database ->Properties -> Files ดูชื่อในช่อง Logical Name ที่ File Type เป็น LOG
กลายเป็น
DBCC SHRINKFILE(SomeLogicalName_log, 1)
ก็จะ shrink log ลงได้
ใช้ putty ssh เข้าไปที่ server ที่ลง mongodb ไว้ ถ้าจำไม่ได้ว่า path ของ mongoDB อยู่ไหน ก็ลองใช้คำสั่ง
$ grep -i dbPath /etc/mongod.conf
$ grep -i log /etc/mongod.conf
1.พิมพ์ mongo เพื่อเข้าใช้งาน shell ของ mongodb
2.พิมพ์ use admin เพื่อใช้ database ที่ชื่อ admin
3.พิมพ์ db.adminCommand( { logRotate : 1 } )
เพื่อให้ mongod.log ไฟล์เดิมที่ใหญ่เกินเปลี่ยนชื่อเป็น mongod.log.2018-09-14T11-29-54
แล้วมันจะสร้าง mongod.log ไฟล์ใหม่ว่างๆ เพื่อเขียน log ให้
4.พิมพ์ exit ออกจาก mongodb
มันมีวิธีการตั้งให้ rotate log แบบ auto รายวันด้วย เดี๋ยวมาเขียนต่อ
คำสั่ง basic อื่นๆที่จำเป็น
$ df -h เอาไว้ check disk space
$ free -m ดูว่าใช้ RAM ไปเท่าไหร่
ปกติ Timestamp จะใช้ format 2022-01-11T03:28:38Z
แต่ Unix timestamp จะเป็นตัวเลขหมดเลย เช่น 1641751802
แต่สิ่งที่เราอยากได้คือ DateTime แบบ yyyy-mm-dd hh:ii:ss.000
ก็ใช้คำสั่ง DateAdd
Select
dateadd(S, [unixtime], '1970-01-01')
From [Table]
เช่น Select dateadd(S, 1641751802, '1970-01-01') จะได้ 2022-01-09 18:10:02.000
ถ้าจะ convert กลับ จาก DateTime ให้กลายเป็น Unix time ก็ใช้คำส่ง DateDiff
Select DATEDIFF(SECOND,'1970-01-01',GETDATE())
Cert https หมดอายุ เว็บขึ้น Not secured เข้าไม่ได้ ทำไง?
ปวดหัวทีเดียวเมื่อมาเจอ Server จอดำๆใช้แต่ command แบบ linux ปกติใช้แต่ Windows -_-'
ก็ไปต่ออายุ SSL Certificate มาเสียก่อน ก็จะได้ไฟล์ cert ที่หลักๆต้องมี 2 ไฟล์คือ publiccert.pem กับ privatekey.pem
1. หา username/password ของ root มาให้ได้ก่อน
2. ใช้ putty connect ไปที่ ip เครื่องนั้น
3. พิมพ์คำสั่งเพื่อหาว่าไฟล์ cert ที่เราต้องไปอัพเดทอยู่ที่ไหน
grep -i -r "SSLCertificateFile" /etc/httpd/
ถ้า Pink Splash จะเป็นเงินไหลมา ส่วน Pink Spot คือออมชมพู 😁 มี Milk Confetti อีกต้นที่คล้ายๆกัน แต่นั่นใบใหม่จะเป็นสีเขียวพาสเทลมาเลยแล้วมีจุดชมพู ส่วนออมชมพูใบใหม่จะชมพูมาก่อน ตระกูล Syngonium มันคล้ายกันมาก
1.เลือกต้นที่แก่พอยาวพอที่จะตัด
2.ตัดเลยจ้า อยากได้เยอะก็ 1 ข้อ 1 ใบ อยากได้โตไวก็ 2 ข้อก็ดี ใช้มีดคมๆ ตัดตรงกลางก้านเขียวๆระหว่างข้อ 2 ข้อ แบบชึ้บเดียวขาด อันนี้เราตัดแบ่งออกมา 3 ต้น รอยตัดทาปูนแดงแล้วปล่อยไว้ให้แห้ง ทาต้นแม่ด้วย
3.วัสดุที่ใช้ปลูก ก็เหมือนเดิม กาบมะพร้าวสับแช่น้ำ 1 คืน เทน้ำทิ้ง เขาบอกว่าสารสีน้ำตาลในกาบมะพร้าวมันทำให้ต้นไม่ไม่ค่อยโต เอามาผสมเพอไลท์เม็ดสีขาวๆ โรยด้วยปุ๋ยละลายช้า ออสโมโคท
จริงๆจะด่างไม่ด่างก็ใช้วิธีเดียวกัน 😁
1.เริ่มด้วยหาต้นเหยื่อสักต้น อาจจะเป็นต้นที่เราซื้อมา 250 แล้วขยายกระถางให้ใหญ่ หรือปลูกลงดิน สัก 3-4 เดือน ต้นมันจะโตขึ้นเยอะ ก็ตัดยอดมาเลย ให้ติดสัก 6-7 ใบ2.เอามาตัดข้อละใบ ตัดกลางๆข้อ อย่าให้ติดใบเกิน ได้ 6 ข้อ ก็คือต้นใหม่ 6 ต้น
3.ผสมน้ำเปล่า(น้ำประปาธรรมดาๆนี่แหละ) กับน้ำยาเร่งราก B-1 (หาซื้อได้ตามร้านต้นไม้ทั่วไปหรือ shopee) อัตราส่วนประมาณ น้ำขวด 1.5 ลิตร ใช้น้ำยาเร่งราก 1 ฝา
4.หาแก้วกาแฟที่เรากินแล้วทิ้ง ล้างให้สะอาด ใส่น้ำที่ผสมแล้ว ใส่กิ่ง 1 ข้อ 1 ใบของเราลงไป เทน้ำให้ท่วมกิ่งพอดี อย่าเยอะเกิน
5.รอ 1 เดือน รากจะงอก บางกิ่นรากยาว บางกิ่งรากสั้นจะแช่น้ำต่อรอรากมันยาวก็ได้
ส่วนต้นแม่มันก็แตกกิ่งใหม่ตั้งแต่ 2 สัปดาห์ที่แล้ว
#ยางอินเดีย